เทียนกิ่ง
ชื่ออื่น
เทียนขาว เทียนไม้(ภาคกลาง) โจยกะฮวยเฮี๊ยะ ฮวงกุ่ย(จีน) Henna tree
ชื่อวิทยาศาสตร์Lawsonia inermis L.วงศ์Lythraceae ลักษณะเป็นไม้พุ่มสูง 3-6 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ก้านอ่อนลักษณะสี่เหลี่ยม ไม่มีขน ใบรูปไข่ยาว ๆ ออกตรงข้ามกัน ฐานใบเรียวเล็กติดกับก้านใบ ปลายใบโค้งแหลมสั้น ก้านใบสั้นหลุดร่วงได้ง่าย ดอกสีเหลืองออกเขียว มีกลิ่นหอม ออกเชป็นช่อที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงติดกันยาว 2-2.5 มม. ส่วนปลายแยกเป็น 4 กลีบ กลีบดอกมี 4 กลีบ แต่ ละกลีบมีรอยย่นปลายมนกลม ผลเป็นทรงกลม ผลเก่สีนำตาล ภายในมีเมล็ดมาก เมล็ดเป็นเหลี่ยม ๆ ออกดอกในฤดูหนาว เป็นไม้ต่างประเทศ นำมาปลูกเป็นไม้ประดับในบ้านเรือน สวนสาธารณะและวัด สรรพคุณ ใบ ใช้พอกผแผลสด ห้ามเลือด แก้เล็บขบ เล็บเป็นแผลเจ็บหรือหนอง ฝี แผลไฟไมห้หรือน้ำร้อนลวก แผลบวมฟกช้ำ ผิวหนังอักเสบและเชแก้เจ็บคอ
http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant9.htm
ชื่ออื่น
เทียนขาว เทียนไม้(ภาคกลาง) โจยกะฮวยเฮี๊ยะ ฮวงกุ่ย(จีน) Henna tree
ชื่อวิทยาศาสตร์Lawsonia inermis L.วงศ์Lythraceae ลักษณะเป็นไม้พุ่มสูง 3-6 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ก้านอ่อนลักษณะสี่เหลี่ยม ไม่มีขน ใบรูปไข่ยาว ๆ ออกตรงข้ามกัน ฐานใบเรียวเล็กติดกับก้านใบ ปลายใบโค้งแหลมสั้น ก้านใบสั้นหลุดร่วงได้ง่าย ดอกสีเหลืองออกเขียว มีกลิ่นหอม ออกเชป็นช่อที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงติดกันยาว 2-2.5 มม. ส่วนปลายแยกเป็น 4 กลีบ กลีบดอกมี 4 กลีบ แต่ ละกลีบมีรอยย่นปลายมนกลม ผลเป็นทรงกลม ผลเก่สีนำตาล ภายในมีเมล็ดมาก เมล็ดเป็นเหลี่ยม ๆ ออกดอกในฤดูหนาว เป็นไม้ต่างประเทศ นำมาปลูกเป็นไม้ประดับในบ้านเรือน สวนสาธารณะและวัด สรรพคุณ ใบ ใช้พอกผแผลสด ห้ามเลือด แก้เล็บขบ เล็บเป็นแผลเจ็บหรือหนอง ฝี แผลไฟไมห้หรือน้ำร้อนลวก แผลบวมฟกช้ำ ผิวหนังอักเสบและเชแก้เจ็บคอ
http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant9.htm
ชุมเห็ดเทศ
ชื่ออื่น
ขี้คาก ลับมืนหลวง หมากกะลิงเทศ ชุมเห็ดใหญ่ ตะสีพอ ตุ๊ยเฮียะเต่า ฮุยจิวบักทง
ชื่อวิทยาศาสตร์Cassia alata L. วงศ์Caesalpiniaceae ลักษณะเป็นพุ่มไม้ขนาดกลาง สูง 1.5-3 เมตร ลำต้นเข็งมีเนื้อไม้ ใบเป็นใบประกอบยาว 30-60 ซม. มีใบย่อย 5-12 คู่ ใบย่อยลักษณะรูปไข่ปลายมน ก้านใบย่อยสั้นมากดอกออกเป็นช่อจากปลายกิ่ง ก้านดอกย่อยสั้นมาก ใบประดับเป็นแผ่นบาง ๆ กลีบเลี้ยงสีเขียวมี 5 กลีบเกสรตัวผู้ยาวไม่เท่ากัน เกสรตัวเมียมี 1 อัน ผลเป็นฝักไม่มีขน ฝักแก่สีดำ ผิวนอกขรุขระสีดำ ชุมเห็ดเทศชอบขึ้นเองตามที่ชุ่มชื้นที่รกร้าง นอกจากนั้นพบปลูกเป็นรั้ว ดอกออกเป็นช่อใหญ่ สีเหลืองสดเป็นแนวสวยมากสรรพคุณใบรสฉุน สุขุม ใช้ภายนอกฆ่าพยาธิ แก้กลาก เส้นประสาทอักเสบ เป็นเริมหรือผื่นคันมีน้ำเหลือง แผลบวม ฝีมีหนอง ต้มน้ำกินเป็นยาระบาย อมบ้วนปาก ดอกใช้เป็นยาระบายเปลือกและเนื้อไม้ใช้ขับน้ำเหลืองเสีย
http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant6.htm
ชื่ออื่น
ขี้คาก ลับมืนหลวง หมากกะลิงเทศ ชุมเห็ดใหญ่ ตะสีพอ ตุ๊ยเฮียะเต่า ฮุยจิวบักทง
ชื่อวิทยาศาสตร์Cassia alata L. วงศ์Caesalpiniaceae ลักษณะเป็นพุ่มไม้ขนาดกลาง สูง 1.5-3 เมตร ลำต้นเข็งมีเนื้อไม้ ใบเป็นใบประกอบยาว 30-60 ซม. มีใบย่อย 5-12 คู่ ใบย่อยลักษณะรูปไข่ปลายมน ก้านใบย่อยสั้นมากดอกออกเป็นช่อจากปลายกิ่ง ก้านดอกย่อยสั้นมาก ใบประดับเป็นแผ่นบาง ๆ กลีบเลี้ยงสีเขียวมี 5 กลีบเกสรตัวผู้ยาวไม่เท่ากัน เกสรตัวเมียมี 1 อัน ผลเป็นฝักไม่มีขน ฝักแก่สีดำ ผิวนอกขรุขระสีดำ ชุมเห็ดเทศชอบขึ้นเองตามที่ชุ่มชื้นที่รกร้าง นอกจากนั้นพบปลูกเป็นรั้ว ดอกออกเป็นช่อใหญ่ สีเหลืองสดเป็นแนวสวยมากสรรพคุณใบรสฉุน สุขุม ใช้ภายนอกฆ่าพยาธิ แก้กลาก เส้นประสาทอักเสบ เป็นเริมหรือผื่นคันมีน้ำเหลือง แผลบวม ฝีมีหนอง ต้มน้ำกินเป็นยาระบาย อมบ้วนปาก ดอกใช้เป็นยาระบายเปลือกและเนื้อไม้ใช้ขับน้ำเหลืองเสีย
http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant6.htm
ชุมเห็ดไทย
ชื่ออื่น
กิเกียชุมเห็ดเขาควาย ชุมเห็ดนา ชุมเห็ดเล็ก พรมดาน หญ้าลึกลืน
ชื่อวิทยาศาสตร์Cassia tora L.วงศ์Caesalpiniaceaeลักษณะเป็นพืชปีเดียวตาย สูง 0.3-1.2 เมตร ชยี้ดมกลิ่นเหม็นเขียว ลำต้นตั้งแข็งแรงแตกกิ่งก้านสาขามากมาย มีขนอ่อนนุ่มปกคลุมทั่วทั้งต้น ใบเป็นใบประกอบออกสลับกัน มีใบย่อย 3 คู่ ใบย่อยลักษณะรูปไข่ปลายป้าน ขอบใบเรียบ ด้านหลังใบแทบไม่มีขน ท้องใบมีขนอ่อนนุ่ม ดอกสีเหลือง มักออกเป็นคู่จากง่ามใบ กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ ลักษณะรี ผิวนอกมีขนอ่อนนุ่มกลีบดอกมี 5 กลีบ สีเหลือง เกสรตัวผู้มี 10 อัน 3 อันที่อยู่ด้านบนจะเสื่อมไป อีก 7 อัน ที่อยู่รอบ ๆ จะเจริญเติบโตเต็มที่ รังไข่เป็นเส้นยาวงอโค้งเล็กน้อย มีขนสั้น ๆ ปกคลุม ฝักเป็นเส้นยาวโค้งเล็กน้อย ผิวนอกเรียบเป็นมันสีเขียวออกน้ำตาล ชุมเห็ดเทศมักพบขึ้นเองตามริมทาง ริมคลอง ที่รกร้างทั่วไป สรรพคุณ เมล็ดรสขม ชุ่ม เย็น ใช้กล่อมตับ ทำให้ตาสว่าง ขับอุจจาระแลปัสสาวะ แก้ตาแดง ตาฝ้ามัว ตาฟาง ความดันเลือดสูง ตับอักเสบ ตับแข็ง ท้องผูกเป็นประจำ และเป็นยาบำรุงกำลัง ใบหรือทั้งต้นรสขม ชุ่ม ใช้เป็นยาระบาย ยาถ่าย แก้ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด กล่อมตับและทำให้ตาสว่าง
http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant7.htm
ชื่ออื่น
กิเกียชุมเห็ดเขาควาย ชุมเห็ดนา ชุมเห็ดเล็ก พรมดาน หญ้าลึกลืน
ชื่อวิทยาศาสตร์Cassia tora L.วงศ์Caesalpiniaceaeลักษณะเป็นพืชปีเดียวตาย สูง 0.3-1.2 เมตร ชยี้ดมกลิ่นเหม็นเขียว ลำต้นตั้งแข็งแรงแตกกิ่งก้านสาขามากมาย มีขนอ่อนนุ่มปกคลุมทั่วทั้งต้น ใบเป็นใบประกอบออกสลับกัน มีใบย่อย 3 คู่ ใบย่อยลักษณะรูปไข่ปลายป้าน ขอบใบเรียบ ด้านหลังใบแทบไม่มีขน ท้องใบมีขนอ่อนนุ่ม ดอกสีเหลือง มักออกเป็นคู่จากง่ามใบ กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ ลักษณะรี ผิวนอกมีขนอ่อนนุ่มกลีบดอกมี 5 กลีบ สีเหลือง เกสรตัวผู้มี 10 อัน 3 อันที่อยู่ด้านบนจะเสื่อมไป อีก 7 อัน ที่อยู่รอบ ๆ จะเจริญเติบโตเต็มที่ รังไข่เป็นเส้นยาวงอโค้งเล็กน้อย มีขนสั้น ๆ ปกคลุม ฝักเป็นเส้นยาวโค้งเล็กน้อย ผิวนอกเรียบเป็นมันสีเขียวออกน้ำตาล ชุมเห็ดเทศมักพบขึ้นเองตามริมทาง ริมคลอง ที่รกร้างทั่วไป สรรพคุณ เมล็ดรสขม ชุ่ม เย็น ใช้กล่อมตับ ทำให้ตาสว่าง ขับอุจจาระแลปัสสาวะ แก้ตาแดง ตาฝ้ามัว ตาฟาง ความดันเลือดสูง ตับอักเสบ ตับแข็ง ท้องผูกเป็นประจำ และเป็นยาบำรุงกำลัง ใบหรือทั้งต้นรสขม ชุ่ม ใช้เป็นยาระบาย ยาถ่าย แก้ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด กล่อมตับและทำให้ตาสว่าง
http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant7.htm
เถาสิงโต
ชื่ออื่น
กะทกรก รก(ภาคกลาง) กระโปรงทอง(ภาคใต้) ตำลึงฝรั่ง(ชลบุรี) เถาเงาะ(ชัยนาท) ผักเคบฝรั่ง(ภาคเหนือ) เล่งจูก้วย เล้งทุงจู(จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์Passiflora foetida L.วงศ์Passifloraceae ลักษณะเป็นไม้เถาเลื้อย ขยี้ดมกลิ่นเหม็นเขียว มีขนอ่อนสีขาวปกคลุมทั้งต้นเลื้อยพันต้นไม้อื่น ใบออกสลับกัน ฐานใบโค้งเข้าคล้ายรูปหัวใจ ปลายใบแหลมแยกเป็น 3 แฉก ขอบใบมีรอยหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย มีขนสั้น ๆ ดอกเป็นดอกเดี่ยวกลีบดอกชั้นนอกสีขาวปลายมน ส่วนชั้นในเป็นเส้นปลายแหลมหลายเส้น โคนสีม่วงปลายสีขาวเรียงกันเป็นรัศมี ผลกลม ผลแก่สีเหลือง เนื้อหุ้มเมล็ดลื่น รสหวาน ผลแก่จะแตกเป็น 3 กลีบ เถาสิงโตพบึ้นทั่วไปตามป่าละเมาะและทุ่งหญ้า สรรพคุณ ทั้งต้นหรือใบ รสขม เย็นจัด ใช้กล่อมตับ ขับของเสียออกจากไต แก้บวม ถอนพิษ แก้ไอ หอบ หนองใน ปัสสาวะเป็นเลือด ฝักหรือเมล็ดรสชุ่ม ขม เย็น มีพิษ ใช้กล่อมตับ ทำให้ตาสว่าง บำรุงกระเพาะอาหาร ทำให้การขับถ่ยดี ปวดท้อง บิด ท้องผูก ตาบวมเดง วิงเวียน ปวดหัวเละถอนพิษ
http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant8.htm
เสดดพังพอน
ชื่ออื่น
พิมเสนต้น(ภาคกลาง) ฉิกเชเกี่ยม(จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์Barleria lupulina Lindl.วงศ์Acanthaceae ลักษณะเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 2 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ใบออกตรงข้ามกัน เรียวยาว 4-8 ซม. ปลายใบเหลม ฐานใบเรียวเล็กลงไปจนถึงก้านใบ มีเส้นกลางใบสีแดง ก้านใบสั้น ที่โคนก้านใบมีหนามหนึ่งคู่ สีม่วงปลาย เหลมชี้ลง ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง มีใบประดับขนาดใหญ่สีเขียวปลายสีม่วงแดงดอกมีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ ซ้อนกันเป็นคู่ เกสรตัวผู้มี 4 อัน สั้น 2 ยาว 2 ก้านเกสรตัวเมียเป็นเส้นยาว ผลเป็นฝักรูปไข่ แบนยาว มีเมล็ด 2-4 เมล็ด ออกดอกในฤดูร้อน ชอบขึ้นในที่ชุ่มชื้น พบปลูกเป็นรั้วประดับหรือไว้ใช้เป็นยา สรรพคุณ ใบรสขม ฉุน สุขุม ทำให้เลือดไหลเวียนดี แก้พิษเมลงสัตว์กัดต่อยเช่น ผึ้ง ตะขาบ แมลงป่องต่อยฝีบวม อักเสบ แผลฟกชำจากหกล้มหรือกระทบกระแทก แผลมีเลือดออก http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant19.htm
ชื่ออื่น
พิมเสนต้น(ภาคกลาง) ฉิกเชเกี่ยม(จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์Barleria lupulina Lindl.วงศ์Acanthaceae ลักษณะเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 2 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ใบออกตรงข้ามกัน เรียวยาว 4-8 ซม. ปลายใบเหลม ฐานใบเรียวเล็กลงไปจนถึงก้านใบ มีเส้นกลางใบสีแดง ก้านใบสั้น ที่โคนก้านใบมีหนามหนึ่งคู่ สีม่วงปลาย เหลมชี้ลง ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง มีใบประดับขนาดใหญ่สีเขียวปลายสีม่วงแดงดอกมีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ ซ้อนกันเป็นคู่ เกสรตัวผู้มี 4 อัน สั้น 2 ยาว 2 ก้านเกสรตัวเมียเป็นเส้นยาว ผลเป็นฝักรูปไข่ แบนยาว มีเมล็ด 2-4 เมล็ด ออกดอกในฤดูร้อน ชอบขึ้นในที่ชุ่มชื้น พบปลูกเป็นรั้วประดับหรือไว้ใช้เป็นยา สรรพคุณ ใบรสขม ฉุน สุขุม ทำให้เลือดไหลเวียนดี แก้พิษเมลงสัตว์กัดต่อยเช่น ผึ้ง ตะขาบ แมลงป่องต่อยฝีบวม อักเสบ แผลฟกชำจากหกล้มหรือกระทบกระแทก แผลมีเลือดออก http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant19.htm
ผักหนาม
ชื่ออื่น
กะลี หลักฉื่อโกว จุยหลักเท้า
ชื่อวิทยาศาสตร์Lasia spinosa Thw.วงศ์Araceae ลักษณะเป็นพืชจำพวกบอนมีลำต้นใต้ดินเป็นแท่นทรงกระบอกทอดยาวขนานไปตามพื้นดิน มีข้อและหนามแข็งติดกับราก ก้านใบเป็นเส้นกลมออกมาจากลำต้นใต้ดินสูง 60-120 ซม. มีหนาม ใบเป็นแผ่นบาง ๆ มีรอยเว้าลึกเกือบถึงปลายใบ ฐานใบโค้งเข้าคล้ายรูปหัวใจ มีเส้นกลางใบใหญ่ 1 เส้น ท้องใบมีหนาม ใบอ่อนม้วนเป็นแท่งกลม ปลายแหลมงอกพุ่งออกมา แล้วค่อยคลี่ใบออก กาบหุ้มช่อดอกสีแดงยาว บิดเป็นเกลียว ช่อดอกออกรวมกันแน่นเป็นแท่งสีขาว ดอกย่อยเป็นดอกสมบูรณ์เพศ บานจากบนลงล่าง ผลอยู่ติดกันแน่นเป็นแท่งทรงกระบอก ผลย่อยเป็นเหลี่ยม ผักหนามพบขึ้นตามที่ลุ่มมีนำขัง เช่น ตามริมหนองน้ำ ลำคลอง เป็นต้น สรรพคุณ ลำต้นรสเผ็ดชา แก้ไข้ กระหายน้ำ ไอ ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ ปัสสาวะสีเหลืองหือแดง ผิวหนังเน่าเปื่อยเป็นหนอง
เอื้องหมายนา
ชื่ออื่น
ชู้ไลบ้อง ซูเลโบ(กระเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เอื้องช้าง(นครศรีธรรมราช) เอื้องต้น(ยะลา) เอื้องเพ็ดม้า(ภาคกลาง) เอื้องใหญ่(ภาคใต้)จุยเจียวฮวย(จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์Costus speciosus Smithวงศ์Costaceae ลักษณะเป็นพืชมีหัว ลำต้นกลมอวบนำสูง 1.5-2.5 เมตร รากเป็นหัวใหญ่ยาว บริเวณโคนต้นติดหัวแข็งคล้ายไม้ ใบออกเรียงกันเป็นเกลียวคล้ายก้นหอย ตัวใบยาวเรียวแหลมฐานใบมน โคนใบมีขนและมีส่วนหุ้มรอบลำต้นออกดอกเป็นช่อ ที่ยอด ดอกย่อยรวมกันอยู่หนาเน่น ใบประดับสีม่วงแดงลักษณะรูปไข่ แต่ละใบประดับมีดอกย่อย 1 ดอก ดอกย่อยมีกลีบ เลี้ยง 3 กลีบ กลีบดอกติดกันเป็นหลอด ส่วนปลายแยกเป็นกลีบ ลักษณะกลมปลายมนสีขาวหรือออกแดงเล็กน้อย ส่วนอีก กลีบหนึ่งลักษณะคล้ายลิ้น เป็นแผ่นสีขาวตรงกลางสีเหลือง ขอบหยักเป็นคลื่น ผลกลมมีเนื้อแข็งสีแดง เมล็ดสีดำเป็นมัน เอื้องหมายนาชอบขึ้นในที่ชื้น ใต้ต้นไม้ใหญ่ บริเวณเชิงเขาตามนำตก และริมทางน้ำ สรรพคุณ เหง้า รสฉุน เย็นจัด มีพิษ ใช้ขับปัสสาวะ แก้บวมน้ำ สตรีตกขาวเละโรคที่ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ แผลอักแสบบวมมีหนอง ฆ่าพยาธิและทำให้แท้ง http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant26.htm
ชื่ออื่น
ชู้ไลบ้อง ซูเลโบ(กระเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) เอื้องช้าง(นครศรีธรรมราช) เอื้องต้น(ยะลา) เอื้องเพ็ดม้า(ภาคกลาง) เอื้องใหญ่(ภาคใต้)จุยเจียวฮวย(จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์Costus speciosus Smithวงศ์Costaceae ลักษณะเป็นพืชมีหัว ลำต้นกลมอวบนำสูง 1.5-2.5 เมตร รากเป็นหัวใหญ่ยาว บริเวณโคนต้นติดหัวแข็งคล้ายไม้ ใบออกเรียงกันเป็นเกลียวคล้ายก้นหอย ตัวใบยาวเรียวแหลมฐานใบมน โคนใบมีขนและมีส่วนหุ้มรอบลำต้นออกดอกเป็นช่อ ที่ยอด ดอกย่อยรวมกันอยู่หนาเน่น ใบประดับสีม่วงแดงลักษณะรูปไข่ แต่ละใบประดับมีดอกย่อย 1 ดอก ดอกย่อยมีกลีบ เลี้ยง 3 กลีบ กลีบดอกติดกันเป็นหลอด ส่วนปลายแยกเป็นกลีบ ลักษณะกลมปลายมนสีขาวหรือออกแดงเล็กน้อย ส่วนอีก กลีบหนึ่งลักษณะคล้ายลิ้น เป็นแผ่นสีขาวตรงกลางสีเหลือง ขอบหยักเป็นคลื่น ผลกลมมีเนื้อแข็งสีแดง เมล็ดสีดำเป็นมัน เอื้องหมายนาชอบขึ้นในที่ชื้น ใต้ต้นไม้ใหญ่ บริเวณเชิงเขาตามนำตก และริมทางน้ำ สรรพคุณ เหง้า รสฉุน เย็นจัด มีพิษ ใช้ขับปัสสาวะ แก้บวมน้ำ สตรีตกขาวเละโรคที่ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ แผลอักแสบบวมมีหนอง ฆ่าพยาธิและทำให้แท้ง http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant26.htm
หญ้าเกล็ดปลา
ชื่ออื่น
หญ้าเกล็ดปลา(ภาคกลาง) ไต่หยี่หนึ่งจี้ ก้วยกังติ้ง(จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์Lippia nodiflora Rich.วงศ์Verbenaceae ลักษณะเป็นพืชขึ้นเลื้อยคลุมดิน แตกกิ่งก้านสาขา ข้อที่แตกดินจะงอกรากออกมายึดเกาะดินไว้ ทั้งต้นมีขนสั้น ๆ ต้นยาว 15-90 ซม. เนื้อใบค่อนข้างหนา ปลายใบมน ขอบใบมีรอยหยักคล้ายซี่เลื่อย ตั้งเต่ กลางใบขึ้นมาถึงปลายใบ ฐานใบเรียวเล็ก ดอกออกเป็นช่อจากง่ามใบ มีดอกย่อยจำนวนมากอยู่ติดกันแน่น เป็นทรงกระบอกยาว 1-2 ซม. มีกลีบเลี้ยง 2 กลีบเล็ก ๆ กลีบดอกสีม่วงแดงอ่อน ออกติดกันเป็นหลอดแคบ ๆ ส่วนปลายเปิกลักษณะคล้ายปาก เกสรตัวผู้มี 4 อัน สั้น 2 ยาว 2 ติดกับกลีบดอก รังไข่ภายใยแบ่งเป็น 2 ห้อง ผลมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2 มม. มีกลีบเลี้ยงห่อหุ้มอยู่ เมื่อแก่จัดจะแยกออกเป็นเมล็ดแข็ง 2 เมล็ด หญ้า เกล็ดปลาพบขึ้นเองตามที่ดินปนทราย มีน้ำชุ่มชื้นและแดดจัด ตามริมทางน้ำและแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ สรรพคุณ ทั้งต้น รสสุขุม ใช้ขับปัสสาวะ แก้ไข้ แผลมีหนอง ปัสสาวะเป็นเลือด ไอเป็นเลือด แผลฟกช้ำจากหกล้มหรือกระทบกระแทก
ชื่ออื่น
หญ้าเกล็ดปลา(ภาคกลาง) ไต่หยี่หนึ่งจี้ ก้วยกังติ้ง(จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์Lippia nodiflora Rich.วงศ์Verbenaceae ลักษณะเป็นพืชขึ้นเลื้อยคลุมดิน แตกกิ่งก้านสาขา ข้อที่แตกดินจะงอกรากออกมายึดเกาะดินไว้ ทั้งต้นมีขนสั้น ๆ ต้นยาว 15-90 ซม. เนื้อใบค่อนข้างหนา ปลายใบมน ขอบใบมีรอยหยักคล้ายซี่เลื่อย ตั้งเต่ กลางใบขึ้นมาถึงปลายใบ ฐานใบเรียวเล็ก ดอกออกเป็นช่อจากง่ามใบ มีดอกย่อยจำนวนมากอยู่ติดกันแน่น เป็นทรงกระบอกยาว 1-2 ซม. มีกลีบเลี้ยง 2 กลีบเล็ก ๆ กลีบดอกสีม่วงแดงอ่อน ออกติดกันเป็นหลอดแคบ ๆ ส่วนปลายเปิกลักษณะคล้ายปาก เกสรตัวผู้มี 4 อัน สั้น 2 ยาว 2 ติดกับกลีบดอก รังไข่ภายใยแบ่งเป็น 2 ห้อง ผลมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2 มม. มีกลีบเลี้ยงห่อหุ้มอยู่ เมื่อแก่จัดจะแยกออกเป็นเมล็ดแข็ง 2 เมล็ด หญ้า เกล็ดปลาพบขึ้นเองตามที่ดินปนทราย มีน้ำชุ่มชื้นและแดดจัด ตามริมทางน้ำและแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ สรรพคุณ ทั้งต้น รสสุขุม ใช้ขับปัสสาวะ แก้ไข้ แผลมีหนอง ปัสสาวะเป็นเลือด ไอเป็นเลือด แผลฟกช้ำจากหกล้มหรือกระทบกระแทก
พันงู
ชื่ออื่น
ควยงู หญ้าตีนงูขาว ต๋อค้อเช่า
ชื่อวิทยาศาสตร์Achyranthes aspera L.วงศ์Amaranthaceae ลักษณะเป็นพืชมีอายุ 1-2 ปีตาย ลำต้นสูง 0.5-2 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามากมายและมักล้มลงแตะดิน กิ่งและก้านกลม ข้อสีแดงพองออกเล็กน้อย ก้านอ่อนสีเขียวหรือสีแดง ลักษณะสี่เหล่ยม มีขนสั้น ๆ สีขาว ใบออกตรงข้ามกัน ตัวใบลักษณะรูปไข่ค่อนข้างกลม ปลาบใบแหลมสั้น ส่วฐานใบเรียวแหลมมีขนทั้ง 2 ด้าน ออกดอกเป็นช่อยาวที่ปลายกิ่ง ออกดอกในฤดูร้อน พบขึ้นตามที่รกร้าง ขึ้นเป็นทุ่งตามทุ่งหญ้าเวลาเดินผ่านลำบากมาก สรรพคุณ ราก รสขม เปรี้ยว สุขุม ทำให้เลือดไหลเวียนคล่อง ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว บวมน้ำ ปัสสาวะเป็นเลือด ประจำเดือนไม่มาตามปกติ ปวดข้อ บิด มาเลเรีย คอตีบ ทั้งต้นรสขม ฉุน เย็น แก้ร้อน ไตอักเสบ นิ่ว ขับปัสสาวะ ลดความดันเลือด แก้หวัด ไข้บิด มาเลเรีย เจ็บคอ
http://www.skn.ac.th/skl/project/eathel97/plant12.htm
มะเขือพวง
ชื่ออื่น
จะเคาะค่ะ ตะโกงลาโน(มลายู-สงขลา) มะเขือละคร หมากแค้ง(นครราชสีมา) มะแคว้งลูกา(เชียงใหม่) จุยเกีย เจ็กมิ่งจำ(จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์Solanum torvum Sw.วงศ์Solanaceae ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 1-3 เมตร ทั้งต้นมีขนลักษณะคล้ายดาวปกคลุมทั่วไป ลำต้นตั้งแข็งแรง แตกกิ่งก้านสาขามาก กิ่ง ก้าน และใบมีหนามสั้น ใบรีใหญ่ออกสลับกัน ปลายใบแหลม ตัวใบสองข้างไม่เท่ากัน ใบยาว 10-20 ซม. ขอบใบหยักเล็กน้อย ดอกออกเป็นช่อคล้ายร่มจากง่ามใบหรือปลายกิ่ง ดอกย่อยมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบ ดอก 5 กลีบสีขาว มีเกสรตัวผู้ 5 อันออกติดกับกลีบดอกบริเวณปากหลอด อับเรณูสีเหลืองยาวประมาณ 6 มม. รังไข่มี 2 ห้อง ผลกลมไม่มีขน ผลแก่สีเหลืองเข้มถึงส้ม ภายในมีเมล็ดมาก มะเขือพวงพบปลูกเก็บผลขาย หรือขึ้นเองตามที่รกร้าง ในป่าตามไหล่เขาเป็นพืชทนแล้ง สรรพคุณ ทั้งต้น ใบ และผล รสจืด เย็นและมีพิษเล็กน้อย ทำให้เลือดหมุนเวียนดี แก้ปวด ฟกช้ำ ตรากตรำทำงานหนัก กล้ามเนื้อบริเวณเอวฟกช้ำ ไอเป็นเลือด ปวดกระเพาะ ฝีบวมมีหนองและอาการบวมอักเสบ รากใช้พอกเท้าแตกเป็นร่องเจ็บ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น